ปัจจุบันการรับเงินเดือนหรือการออมเงินต่างๆ นั้น จะต้องทำผ่านบัญชีธนาคารของแต่ละคน ซึ่งก็ต้องมีบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีเงินฝากกันทั้งนั้นครับ เชื่อว่าหลายๆ ท่านไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของบัญชีประเภทต่างๆ อยู่พอสมควร วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปหาความรู้เกี่ยวกับ “สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ บัญชีเงินฝาก” ที่เป็นสิ่งที่ดีกันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ
บัญชีเงินฝาก คืออะไร?
บัญชีเงินฝาก (Deposit) คือ บัญชีที่ผู้ฝากเงินกับธนาคารเข้าใจรายละเอียดและเงื่อนไขการฝากเงินมากน้อยแตกต่างกันไป และอาจมีบางส่วนเชื่อมั่นว่าเมื่อฝากเงินก็ต้องได้รับดอกเบี้ยตามที่โฆษณาเป็นผลตอบแทนอย่างแน่นอนนั้นเองครับ
บัญชีเงินฝากมีกี่ประเภทกันนะ
- บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (Savings Account) เป็นบัญชีที่มักไม่กำหนดระยะเวลาและจำนวนครั้งในการฝากถอน มักใช้ร่วมกับบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิต และสามารถใช้หักบัญชีอัตโนมัติเพื่อชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆบัญชีประเภทนี้มักกำหนดเงินฝากขั้นต่ำไว้ไม่สูงนัก แต่ผลตอบแทน (อัตราดอกเบี้ย) ค่อนข้างต่ำ และคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน (สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์) ดังนั้นบัญชีประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะสั้น มีสภาพคล่องเผื่อไว้กรณีต้องทยอยถอนเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน ใช้ทำรายการผ่านบัญชีธนาคาร เช่น รับโอนเงินเดือนและชำระค่าสาธารณูปโภค
- บัญชีเงินฝากประจำ (fixed deposit account) มีกำหนดระยะเวลาการฝากถอนที่แน่นอน เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี และมีการจูงใจด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าการฝากแบบออมทรัพย์ธรรมดา (สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อดอกเบี้ยเงินฝากประจำ) โดยธนาคารจะสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์หรือลงทุนได้ตามระยะเวลาการรับฝาก โดยไม่ต้องสำรองไว้เหมือนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เนื่องจากหากผู้ฝากต้องการได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไข ก็จะต้องไม่ถอนเงินออกจากบัญชีนี้ก่อนกำหนด คือ จะไม่สามารถใช้เงินจำนวนที่ฝากประจำอยู่ในระยะเวลาหนึ่งได้ บัญชีประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินแต่ยังไม่ต้องการใช้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง (เงินเย็น) หรือต้องการออมเงินระยะยาวและหวังผลตอบแทนในรูปแบบอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
- บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน (current account) บัญชีประเภทนี้ถือว่าเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการเงินของบริษัทหรือร้านค้า เพราะสามารถใช้เช็คในการเบิกจ่ายเงินได้ ช่วยลดปริมาณเงินสดที่บริษัทหรือร้านค้าต้องเก็บไว้ เพื่อใช้ชำระเงินค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังสามารถขอใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (overdraft) หรือที่เรียกว่าเงิน O/D ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในกรณีเงินขาดบัญชีและช่วยลดปัญหาเช็คเด้งได้ โดยต้องเสียดอกเบี้ยเฉพาะเงินส่วนที่เบิกเกินบัญชีตามระยะเวลาที่เบิกเกินบัญชี บัญชีประเภทนี้ไม่มีสมุดคู่
3 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเปิดบัญชีเงินฝาก
- เงื่อนไขหรือโปรโมชั่นในการฝากเงิน เงินฝากที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีเงินฝากปกติ ในบางครั้งอาจจะมาพร้อมกับเงื่อนไขที่แอบแฝงเช่น จำนวนขั้นต่ำในการฝากเงินเพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป หรือต้องซื้อประกันพ่วงด้วยถึงจะได้อัรับอัตราดอกเบี้ยสูง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกเงินฝากควรศึกษาเงื่อนไขให้เข้าใจก่อนเลือกบัญชีที่จะฝากเงิน
- ค่าธรรมเนียมฟรีหรือจ่าย เงินฝากแต่ละประเภทจะมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันซึ่งเราควรศึกษาเงื่อนไขก่อนเลือกเปิดบัญชี เช่น ค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชีหากเรามีจำนวนเงินไม่ถึงขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนด หรือบัญชีไม่มีความเคลื่อนไหว ค่าธรรมเนียมกรณีเบิก/ถอนเงินเกินจำนวนครั้งที่ธนาคารกำหนด ค่าธรรมเนียมถอนเงินออกก่อนครบกำหนดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบัญชีเงินฝากประจำ หรือจะเป็นค่าธรรมเนียมอื่นๆ เช่น การโอนเงิน การขอ Statement เป็นต้น
- ดอกเบี้ยเงินฝากต้องเสียภาษีเหมือนกันนะ อีกเรื่องที่สำคัญที่บางคนอาจจะไม่ทราบ ก็คือดอกเบี้ยที่เราได้รับจากบัญชีเงินฝากต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% โดยมีลักษณะแตกต่างกันไปตามประเภทของเงินฝาก
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ บัญชีเงินฝาก” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในข้อมูลเบื้องต้นนี้ คิดว่าน่าจะเป็นความรู้ที่ดีมีประโยชน์พอสมควรนะครับ
